Tuesday, March 23, 2010

อีกสารพันพิษทำร้ายตาโปน More toxic things 4 GD

๐  สารพัดควันๆๆ และ ควัน toxic fumes
=========================
ควันบุหรี่ ..ควันท่อไอเสียจากรถ ..ควันจากเครื่องเรือ
สูด..ดดดดด เข้าไป
ตาโปน ถลนนนนนนน ๆๆๆ ..หนักกว่าเดิม

ตัวป้าเอง ไปฮ่องกงกับมาเก๊าทีไร ตาโปนแย่ลงทุกครั้ง
นอกจากพี่แกจะเดินขากถุยไปทั่วแล้ว ยังเดินพ่นบุหรี่แทบทุกอณูถนนอีก ..แบร่..
สารพัดควันพิษ ผสมกับ ผงชูรส .. กระหน่ำ
แม้เมื่อครั้งล่าสุดที่ไปตอนตาหายโปนแล้ว .. แค่วันที่สองก็ซึ้งเลย .. เ ห ลื อ ก ขึ้นมาใหม่เห็นๆ !
ไว้คลิกไปดูรูปเทียบได้

ที่ Venetian Macau นี่ยิ่งสาหัส เพราะจาก lobby จะไป suites ห้องพักต้องผ่านคาสิโน
โอ้ว พระเจ้าจอร์จ..บุหรี่ล้วนๆ แหวะ
ถึงจะเดินหลบไปใช้ทางของ family ที่ให้เดินทะลุ shopping zone ก็หนีไม่พ้นเพราะต้องไปเฉียดผ่าน Great Hall อยู่ดี
มันเหม็นตลบอบอวลโชยมาหาอย่างไม่ได้รับเชิญแบบเต็มๆ :-(

๐  ยาชา Novocaine/Novocain
=====================
[www.suite101.com/articles.cfm/graves_disease/1-20, และ http://www.mediboard.com/forums/index.phps=2b9c671f2fae81cb7995a4f49e3100f2&showtopic=15111 
และ http://thyroid.about.com/cs/hyperthyrdgraves/a/10things.htm]

-: begin edit :- แจ้งการเปลี่ยนแปลง website ใน reference ค่ะ ปัจจุบันนี้ mediboard.com เค้าแปลงโฉมใหม่และเปลี่ยนเป็น livingwithgravesdisease.com แทนแล้ว ถ้าคลิกที่ link ด้านบน เค้าก็จะวิ่งไปที่ site ใหม่ให้โดยอัตโนมัตินะคะ ถ้าไม่ไปก็ไม่ต้องง้ออ่ะ กดไปเองเลยคุณหลาน ฮ่าๆ www.livingwithgravesdisease.com นะจ๊ะ ..ไปล่ะ ..มาบอกแค่นี้แหละ เผื่อเกิดมีการหา reference ไม่เจอ ป้ากลัวโดนหาว่ามั่วนิ่มอ่ะดิ -: end edit :-

มีสมาชิก mediboard ท่านหนึ่งบ่นให้อ่านถึงความรันทดที่ Graves Disease ของเธอต้องแย่ลง เพราะหมอของเธอไม่เคยได้บอกกล่าวเล่าเตือนเธอก่อนในหลายๆ เรื่องที่เกี่ยวกับตาโปน หนึ่งในนั้นคือ การที่เธอควรได้มีโอกาสบอกหมอฟันว่าเธอเป็น Graves Disease ก่อนทำฟัน เพราะยาชา novocain ได้ทำให้อาการของไทรอยด์และตาของเธอแย่ลง และสุดท้ายมันทำให้หัวใจเธอเต้นเร็วผิดปกติเกิน 100 ครั้งต่อนาทีด้วย

ส่วนคุณอีเลน มัวร์ Elaine Moore ก็มีบทความช่วยยืนยันในเรื่องนี้ด้วยว่า ผู้ที่ตาโปน "ต้อง" หลีกเลี่ยงการรับยาชายี่ห้อ novocain, ยาแก้หวัด แก้แพ้ ประเภทแอนตี้ฮิสตามีน antihistamines, และยา ephedrine แก้แพ้ แก้โรคหอบหืดด้วยค่ะ ส่วนในการทำฟันที่ต้องมีการฉีดยาชา เธอแนะนำว่า ยาชายี่ห้อ carbocaine ใช้ได้กับคนไข้ Hyper + Graves Disease เพราะไม่มีส่วนผสมของเอ็พพิเนฟริน (epinephrine)

๐  กลืนรังสี RAI
==========
(เรื่องยาว..ววววว ป้าเลยทำฉบับแยกไว้ให้เฉพาะกิจ คลิกอ่านได้ที่ Disease Info. section หัวข้อ 'เรียนรู้' ค่ะ)

ไว้ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเรื่องของเป็นพิษอีก ป้าจะมาบอกนะคะ
^_^

Thursday, March 18, 2010

ระวัง 2 ตัวนี้ Aluminum + Fluoride Alert

ตอนเป็น Hyper + ตาโปนแรกๆ แล้วคุ้ยมาเจอเรื่อง Aluminum + Fluoride Alert เนี่ย ก็งงๆ เหมือนกันนะว่า เฮ่ย มันเกี่ยวกันขนาดนั้นเชียวเหรอ พอมาวันนี้อาการดีขึ้นได้รวดเร็วจากที่ทำตามคำแนะนำที่อ่านเจอ ก็เลยเชื่อแล้วจ้า แล้วก็พร้อมแบ่งปันข้อมูลภาคภาษาไทยซะทีล่ะ

เอาเป็นเรื่อง "อลูมินัม + ฟลูออไรด์" แบบมาเป็นคู่ก่อนแล้วกันเน๊อะ...
----------------------------------------------------
[ที่มา - http://thyroid.about.com/cs/toxicchemicalsan/a/flouride.htm] บทความจากลิ้งค์นี้ คุณแมรี่ โชม่อน ผู้เขียน เธอให้ระวังน้ำประปา ที่มักจะผสม aluminum compounds เพื่อให้น้ำใส แถมบางพื้นที่มีการเติมฟลูออไรด์ลงไปให้ด้วย เธอเตือนว่า ลำพังตัวอลูมินัมเองนั้น การดูดซึมเข้าร่างกายก็ไม่ได้ว่องไวสักเท่าไหร่ ..แต่..แต่ระวัง..ถ้าเมื่อไรเจ้าอลูฯ กับฟลูออไรด์เค้ามาเจอกัน มันจะกลายเป็น "อลูมินัม-ฟลูออไรด์" ที่ร่างกายดูดซึมได้ราวสายฟ้าแลบทีเดียว และอันตรายของเจ้าคู่นี้ก็คือ มันจะเป็นส่งผลร้ายกับไตและสมองอย่างรุนแรงถึงขั้นความจำเสื่อม/อัลไซม์เมอร์สได้เลยทีเดียว [Isaacson, R. "Rat studies link brain cell damage with aluminum and fluoride in water" State Univ. of New York, Birmingham, NY, Wall Street Journal article by Marilyn Chase; Oct. 28, 1992, p.B-6]

เข้าเรื่อง "อลูมินัม" ล้วนๆ มั่ง
----------------------
[ที่มา - www.ithyroid.com/aluminum.htm และ www.rense.com/general82/revealed.htm] สรุปคร่าวๆ จากลิ้งค์เนี่ย เค้าบอกว่า เวลาร่างกายเราขาดทองแดง (copper) มันจะส่งผลให้ไทรอยด์ทำงานหนักเกินและนำไปสู่การเป็น Hyperthyroidism ได้ ต่อมาก็มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่า ร่างกายคนเราขาดทองแดงได้จากหลายทาง และหนึ่งในนั้นคือ

Tuesday, March 16, 2010

ปิดตานอน-หยอดตา Sleep Tip

สำหรับตาโปน อันนี้มีประโยชน์เหลือล้ำ นอกจากช่วยไม่ให้ตาแห้งแล้ว ยังลดอาการระคายเคืองตาจากตาแห้งด้วยค่ะ แนะนำให้ทำกันนะคะ เพราะถ้าปล่อยให้ตาแห้งตาแสบบ่อย/มากไป เวลากระพริบตาเสียดสีลูกกะตา หนักเข้าก็อักเสบไปถึงแก้วตาได้เลยด้วย

เวลานอน ตาที่โปนจะปิดไม่สนิท ใหม่ๆ สมัยยังไม่เจอคำแนะนำนี้จาก mediboard ป้าก็นอนตาแห้งไปงั้น ตื่นมาแสบน่าดูเลยขอบอก

สำหรับที่ปิดตา ก็ใช้หน้ากากปิดตาแบบที่แจกบนเครื่องบินแหละค่ะ แรกๆ ไม่ชินก็รำคาญนะ แต่เดี๋ยวนี้ถึงหายโปนแล้วก็ยังติดอ่ะ จะนอนก็ยังต้องปิดตาเหมือนเมื่อก่อนเลย

แล้วก็เรื่องยาหยอดตา "หล่อลื่น" หยอดก่อนนอนและหลังตื่นนอน แล้วก็ช่วงไหนที่รู้สึกตาแห้งจะแย่ก็หยอดได้ค่ะ เค้าแนะนำให้ใช้แบบเป็นเจล ช่วงเป็นใหม่ๆ ก็หา Genteal gel drops กับ Refresh สองยี่ห้อแนะนำในบ้านเราไม่ได้ เลยต้องให้น้องสาวเอากลับมาให้จากแคนาดาไปพลางๆ ค่ะ ตอนหลังเจอที่สิงค์โปร์ก็ใกล้เข้ามาหน่อย แล้วต่อมาคุณหมอตาของคุณแม่บอกว่าวิชัยยุทธมี และที่ร้านขายยาที่อยู่ในซูเปอร์ฯ ของ Paragon ก็มีค่ะ

Good night ... sleep tight ... นอนหลับฝันดีไม่มีตาแห้งทุกคนเน้อ :-)

อาหารกับสิ่งบรรเทาตาโปน Good stuff for GD

ที่มา - www.suite101.com/article.cfm/graves_disease/51468/2, www.suite101.com/article.cfm/graves_disease/1-20, www.mediboard.com/forums/index.php?showtopic=8018 

-: begin edit :- แจ้งการเปลี่ยนแปลง website ใน reference ค่ะ ปัจจุบันนี้ mediboard.com เค้าแปลงโฉมใหม่และเปลี่ยนเป็น livingwithgravesdisease.com แทนแล้ว ถ้าคลิกที่ link ด้านบน เค้าก็จะวิ่งไปที่ site ใหม่ให้โดยอัตโนมัตินะคะ ถ้าไม่ไปก็ไม่ต้องง้ออ่ะ กดไปเองเลยคุณหลาน ฮ่าๆ www.livingwithgravesdisease.com นะจ๊ะ ..ไปล่ะ ..มาบอกแค่นี้แหละ เผื่อเกิดมีการหา reference ไม่เจอ ป้ากลัวโดนหาว่ามั่วนิ่มอ่ะดิ -: end edit :-

เพราะอาการตาโปน เป็นเรื่องของภูมิคุ้มกันไทรอยด์บกพร่อง (ATD - Autoimmune Thyroid Disease) การช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) เกิดความสมดุลย์จึงเป็นหนทางหนึ่งในการบรรเทารักษาที่ดีค่ะ

การนั่งสมาธิ/สวดมนต์ การเล่นโยคะ เล่นไทชิ ช่วยให้จิตใจสงบและเสริมส่งให้จิตและกายสอดผสานเป็นหนึ่งเดียว เป็นการลดความตึงเครียดทั้งมวลทั้งกายและใจ ซึ่งส่งผลดีกับระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ป้าเอาตาที่หายโปนนี้รับประกันให้เลย นี่ขนาดไม่ได้นั่งสมาธินะ แค่สวดมนต์ก็ช่วยให้หุบไปได้มหาศาล

แล้วก็มีองค์ประกอบของพืชบางชนิดที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราสมดุลย์และแข็งแรงได้ด้วย เรียกว่า "Immunomodulators" ในบทความนี้ยกตัวอย่างถึง German chamomile และ Sterolin (plant sterols) ป้าก็ไม่รู้ภาษาไทยเรียกอะไรอ่ะ

ประเภทผักที่ช่วยให้ไทรอยด์ทำงานหนักน้อยลง (..ย้ำ..อันนี้สำหรับคนตาโปนที่เป็นคู่กับ Hyper เท่านั้นนะคะ) คือ ...

Monday, March 15, 2010

ชาวตาโปนไม่ควรกิน.. GD triggered foods

อาหารก่อกวนชวนโปนๆๆๆ ที่ควรลด-เลิกค่ะ ...
- ไอโอดีน
- อลูมินัม และ ฟลูออไรด์
- ผงชูรส
- แอสปาร์แตม
- เครื่องดื่มบางชนิด
- สมุนไพรบางประเภท

- อลูมินัม, ฟลูออไรด์, ไอโอดีน Aluminum, Fluoride, Iodine
(พวกนี้ยาวหน่อย เลยมีแยก post ต่างหากไว้ หาอ่านได้ใน Label "สารพัดสิ่งแสลงฯ" เดียวกันกับ post นี้นะคะ - These can be found in the "Food + things to avoid" post.  I've made a separate section for them due to their lengthy info.)

- ผงชูรส MSG [www.mediboard.com/forums/index.php?showtopic=16600]

ห้าม! ห้าม! และห้ามกินอย่างสาหัส! เลี่ยงได้ 'เลี่ยง' ..เลี่ยงไม่ได้ 'ลด'
ขอยืนยันตาโปนตัวเองเป็นประกัน กินปุ๊บ..น้องโปนมาเยี่ยม (เกือบ) ปั๊บนะ
[ที่ 'เกือบ' ก็เพราะบางทีมาข้ามคืน บางทีก็ 1 วันให้หลังไรเงี้ย ขึ้นอยู่กับปริมาณยาพิษ...:-p] เช่น ไปกินอาหารจีนทีไร ไม่เย็นวันนั้นก็วันรุ่งขึ้น .. (((ปู้ดดด))) <<เอ่อ ป้า นั่นมันซาวด์เอ็ฟเฟ็คตดมากกว่านะ >> เออ จริงแฮะ ไม่ใช่ท้องเสีย งั้น ..(((ปริ๊ง))).. ตาเบิกกว่าเดิมเห็นๆ เลย ...(ไว้ดูรูปกันนะ ยังไม่ได้โหลดมาวางเลย มันเยอะ แก่อ่ะ ขอเวลาคัดสรร)

ยิ่งเวลาไปฮ่องกงนะ โอ้โฮ แทบไม่อยากถอดแว่นดำโชว์น้องโปนเวลาเข้าอาคาร คือนอกจากพิษผงชูรสแล้ว ยังมีพิษสารตะกั่วจากควันรถควันเรือและควันบุหรี่กระหน่ำเป็นล่ำเป็นสัน (อันนี้อ่านเพิ่มเติมที่ post เรื่องสารและควันพิษนะจ๊ะ) หลังๆ นี่ถ้าไม่จำเป็นป้าไม่ไปเลยประเทศเนี้ย..ก็พอตาเริ่มหายโปนแล้วใผจะอยากกลับไปโปนอีกเล๊า


- แอสปาร์แตม Aspartame [www.mediboard.com/forums/index.php?showtopic=16600, และhttp://eyesee.typepad.com/hyperthyroid_graves_eye/aspartame-and-graves-disease/]พวกน้ำตาลเทียมหลายยี่ห้อ ใส่ aspartame เป็นสารทดแทนความหวาน ..อัน-ตะ-รายยยย.. ภายใน 20 นาทีหลังบริโภค แอสปาร์แตมในอุณหภูมิปกติจะแตกตัวเป็นสารพัดส่วนผสมอันตรายเหล่านี้ :-
- Diketopiperazine (DKP) ที่พอกินเข้าไปจะแปรสภาพไปใกล้เคียงสารที่ทำให้เกิดเนื้องอกในสมอง 
- Formic acid พิษที่มดปล่อยเวลากัด
- Formaldehyde ฟอร์มาลีนที่ฉีดกันศพเน่า
- Methanol ทำให้ตาถึงกับบอดได้

นอกจากพบในน้ำตาลเทียมแทบทุกยี่ห้อแล้ว ในเครื่องดื่มประเภทไดเอ็ท, ในหมากฝรั่งและลูกอมหลายยี่ห้อก็มีส่วนผสมของแอสปาร์แตมเหมือนกัน ก่อนซื้อหม่ำ พลิกอ่านส่วนผสม ingredients กันหน่อยเน้อ ถึงมี % ใส่อยู่น้อย แต่กินมากก็สะสมมากนะตัวเองงงง

และจากคำแนะนำที่อ่านมา น้ำตาลทรายขาวเองก็ไม่ค่อยเหมาะสำหรับพวกเราชาวไทรอยด์เดี้ยงและตาโปนเท่าไหร่ค่ะ ที่ดีคือ ควรใช้น้ำตาล brown sugar จะล้ำที่สุด (ไม่ใช่น้ำตาลทรายแดงนะ เป็นน้ำตาลทรายไม่ขัดสีที่เป็นสีเหลืองทองอ่ะจ้ะ)



- รวมๆ ทั่วๆไป Miscellaneous [www.mediboard.com/forums/index.php?showtopic=27284&hl=eggs, www.mediboard.com/forums/index.php?showtopic=7657&hl=eggsฟาร์มบางแห่งให้ไก่กินสาหร่ายทะเลเพื่อให้ออกไข่ที่มีไอโอดีนด้วยล่ะ ก็ยากเหมือนกันที่จะรู้ พวกเราคงต้องอาศัยสังเกตอาการตัวเองและทำบันทึก food journal เอาเองอย่างที่เพื่อนๆ ใน mediboard forum เค้าแนะนำเน๊อะ เค้าบอกด้วยว่า กว่าเราจะมีอาการจากไอโอดีนเกินพิกัดที่ส่งผลกับไทรอยด์ ก็ประมาณ 48 ถึง 60 ชั่วโมง เพราะมันต้องเข้าไปผ่านไทรอยด์ก่อน (แต่ในคนที่แพ้ไอโอดีนก็จะเร็วกว่านั้นค่ะ) งั้นถ้ามีจดอาหารที่กินไว้เราก็กลับมาทบทวนดูได้แม่นยำขึ้น

ถ้างดได้ ควรงด ชาดำ กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ..สำหรับบางคนที่เป็นตาโปน กินช็อคโกแล๊ตทีไรเป็นเรื่องทุกที แต่บางคนก็ไม่เป็นอะไรค่ะ สำหรับกาแฟ ถ้าอยากดื่มมากๆ ก็ขอให้เป็นแบบไร้คาเฟอีน decaffinated ก็แล้วกัน ส่วนชาเขียวนี่ก็ยังเถียงกันอยู่ บางรายก็ว่าไม่น่าดื่มเพราะมีคาเฟอีน บางรายก็ว่าถึงมี แต่มันก็มีประโยชน์ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันด้วย ฯลฯ

พวกสมุนไพรต่างๆ ก็เหมือนกัน บางเจ้ามาแนะให้กินโสม บางรายมาร้องแย้งว่าต้องโสมไซบีเรียเท่านั้นนะ ไม่งั้นไม่ดีกับระบบภูมิคุ้มกันของเรา ยิ่งบกพร่องอยู่แล้วเดี๋ยวจะมาช่วยให้เดี้ยงกว่าเดิม

เวียนเฮดชะมัดเลยใช่มั๊ย.. ป้าว่า ลองดูละกันค่ะ ทำ food diary และสังเกตอาการตัวเองกับผลเลือดดู เหมือนที่ป้าลองทำมา 3 ปีจนแน่ใจแล้วถึงทำบล็อกได้เสียทีนี่ล่ะค่ะ

ป้าเห็นด้วยกับเพื่อนใน mediboard นะว่า  ไอ้เราก็เซ็งกับที่ป่วยนี่อยู่แล้ว ยังต้องมาเครียดเรื่องกินอีก ก็เลยไม่ต้องหายกันพอดี ถ้ากินแล้วอาการไม่มีอะไร ผลเลือดก็ไม่กระทบ ฯลฯ ก็กินไป [ยกเว้น ..ย้ำ.. ยกเว้น ผงชูรส, อลูมินัม,  แอสปาร์แตมนะคะ มันส่งผลร้ายกับพวกเราที่ตาโปนทุกคนค่ะ] ..แต่บอกได้เลยว่า การกินมีผลกับตาโปนอย่างแน่นอน ไม่ว่าคุณหมอไหนๆ จะหาว่าพวกเราคิดไปเองก็ตาม ไม่เป็นไม่รู้นะจาบอกห๊าย -_-


-: begin edit :- แจ้งการเปลี่ยนแปลง website ใน reference ค่ะ ปัจจุบันนี้ mediboard.com เค้าแปลงโฉมใหม่และเปลี่ยนเป็น livingwithgravesdisease.com แทนแล้ว ถ้าคลิกที่ link ด้านบน เค้าก็จะวิ่งไปที่ site ใหม่ให้โดยอัตโนมัตินะคะ ถ้าไม่ไปก็ไม่ต้องง้ออ่ะ กดไปเองเลยคุณหลาน ฮ่าๆ www.livingwithgravesdisease.com นะจ๊ะ ..ไปล่ะ ..มาบอกแค่นี้แหละ เผื่อเกิดมีการหา reference ไม่เจอ ป้ากลัวโดนหาว่ามั่วนิ่มอ่ะดิ -: end edit :-

Saturday, March 13, 2010

ระวังไว้..ไอโอดีน - Iodine Alert

ระวังไว้ ไอโอดีน ที่มา - www.suite101.com/articles.cfm/graves_disease/1-20
เนื่องจากไอโอดีนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรค ATD โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มียีนส์เอื้อต่อโรค (susceptible genes) พวกเราที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันไทรอยด์บกพร่อง (ATD - Autoimmune thyroid disease) เช่น ตาโปน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไอโอดีนอยู่สูง

..ย้ำ "มีอยู่สูง" ไม่ใช่ "ห้ามกิน" โดยสิ้นเชิงนะคะ เพราะยังไงๆ ร่างกายเราก็ต้องการไอโอดีนในปริมาณสมควร

สำหรับคนปกติควรกิน 150 mcg. ต่อวันเป็นอย่างต่ำ แต่สำหรับเราชาวไทรอยด์เดี้ยงก็จะกินได้ตามปริมาณแตกต่างดังนี้ค่ะ ..
- คนที่เป็น Hypo และเป็นตาโปนด้วย กินเกิน 150 mcg. ได้ แต่ไม่ควรเกิน 1,000 mcg. ต่อวัน
- ส่วนชาว Hyper และตาโปนอย่างป้า ต้องการ อย่างน้อย 75 แต่ไม่ควรเกิน 100 mcg. ต่อวัน [www.mediboard.com/forums/index.php?showtopic=4164&hl=eggs]

แย่หน่อยที่ไอโอดีนไม่ได้มีอยู่แค่ในเกลือและอาหารทะเลอย่างที่เราคุ้นๆ กัน แต่ยังมีที่พรางตัวอยู่ในอาหารประเภทที่นึกไม่ถึง เช่น เป็นส่วนผสมในยาหลายชนิด เช่น ยารักษาโรคหัวใจ Amiodarone, อยู่ในวิตามินรวมบางชนิด, ใช้ในอาหารและการเลี้ยงดูของสัตว์ตามฟาร์มต่างๆ หรือใช้ในการฆ่าเชื้อในกระบวนการผลิตอาหาร, เป็นองค์ประกอบในสีย้อมอาหาร ฯลฯ 

คุณ Elaine Moore ผู้เขียน ผู้เคยป่วย และผู้เชี่ยวชาญทางโรคนี้ ได้ให้รายการอาหารที่มีไอโอดีน "แฝง" อยู่สูงไว้ ตามนี้เลยค่ะ ..

- ประเภทเนื้อนมไข่ (dairy): ไอศครีม, ชีส, พุดดิ้ง, นมและผลิตภัณฑ์จากนม, ซาวร์ครีม
- ประเภทโปรตีน:  cold cuts ทั้งหลาย อย่างใส้กรอกแผ่น แฮม ไก่รมควัน ฯลฯ, เบค่อน,ใส้กรอกแท่งทุกชนิด, ปลาทูน่าและซาร์ดีนกระป๋อง
- ประเภท processed food:  เส้นบะหมี่ไข่, คุกกี้แพ็ค และเค้ก-พายต่างๆ 
- ประเภทผลไม้:  ผลไม้กระป๋อง, ผลไม้อบแห้ง, น้ำผลไม้กระป๋อง, น้ำผลไม้ผงสำหรับผสมน้ำ
- ประเภทผัก:  ผักแช่แข็งที่ราดซอสสำเร็จ, ผักกระป่องที่อยู่ในน้ำซอส, มะเขือเทศกระป๋อง, แตงกวาดอง, ซาวเวอร์เคร้าท์, น้ำซอสพาสต้าสำเร็จรูป
- ประเภทของทานเล่น:  เพรทเซิ่ล, มันฝรั่งทอดชนิดแผ่นแบบเค็ม, ข้าวโพดอบกรอบ, ขนมปังแครกเกอร์
- ประเภทสีผสมอาหาร:  ส่วนมากไอโอดีนจะผสมอยู่ในสีแดง สีส้ม และสีน้ำตาล
- อื่นๆ ทั่วไป:  ผงหมักเนื้อนุ่ม, ก้อนปรุงทำน้ำซุปต่างๆ, ซุปกระป๋อง, ซีเรียลแท่งต่างๆ, เนยถั่วชนิดเค็ม, เนยสด, มาการีน, น้ำสลัดสำเร็จรูป, ผงชงโกโก้, เกลือรสกระเทียม (garlic salt), เกลือรสหัวหอม (onion salt), ซอสมะเขือเทศ, มัสตาร์ด, มะกอก, ลูกอมต่างๆ

ระวังกันเน้อ จะได้หายเร็วๆ .. ตาป้ายุบเร็วก็เพราะระวังการหม่ำ ทำตามที่น้าอีเลนแนะนำจริงๆ จ้า
^_^

-: begin edit :- แจ้งการเปลี่ยนแปลง website ใน reference ค่ะ ปัจจุบันนี้ mediboard.com เค้าแปลงโฉมใหม่และเปลี่ยนเป็น livingwithgravesdisease.com แทนแล้ว ถ้าคลิกที่ link ด้านบน เค้าก็จะวิ่งไปที่ site ใหม่ให้โดยอัตโนมัตินะคะ ถ้าไม่ไปก็ไม่ต้องง้ออ่ะ กดไปเองเลยคุณหลาน ฮ่าๆ www.livingwithgravesdisease.com นะจ๊ะ ..ไปล่ะ ..มาบอกแค่นี้แหละ เผื่อเกิดมีการหา reference ไม่เจอ ป้ากลัวโดนหาว่ามั่วนิ่มอ่ะดิ -: end edit :-

Hyper vs. Hypo Yummies อาหารแสลงต่างกัน

เพราะไทรอยด์ของเราไม่ปกติและเป็นเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เวลาเรากินของแสลงหรือของที่เราแพ้ มันจะไปวุ่นวายกับระบบภูมิคุ้มกัน ที่สุดท้ายก็ส่งผลไปก่อกวน auto-antibodies ที่ทำให้เกิด Graves Disease ตาโปนนั่นเอง 

ตอนเป็นใหม่ๆ เพิ่งศึกษาโรค ก็มีสับสนเรื่องอาหารต้องห้าม ระหว่าง Hyperthyroid กับ Hypothyroid เล็กน้อย เช่น..

... คนเป็น Hyper กินกะหล่ำปลีกับเต้าหู้ได้ แต่คนเป็น Hypo ห้ามกิน อาไรเงี้ย .. ..ก็เพราะกะหล่ำกับเต้าหู้เป็นอาหารประเภท goitrogens ที่ทำให้ต่อมไทรอยด์เฉื่อยลง คนเป็น Hypo ไทรอยด์ก็ทำงานน้อยมากไปอยู่แล้ว ก็ไม่ควรกินพวก goitrogens เสริมเข้าไปอีก เหะๆ สมัยเป็นใหม่ๆ ตัวเองก็ดันกินผิดอยู่แป๊บนึงด้วยแหละ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะเพราะหลงอยู่ไม่นาน ว่าแต่ อยากรู้แล้วใช่ม๊า ว่าทำไมบางอย่าง Hyper กินได้แต่ Hypo อดกิน

อาหารแนะนำสำหรับผู้เป็น Hyperthyroidism ที่ช่วยให้ไทรอยด์เพลาๆ การผลิตฮอร์โมนลงได้ดี - ที่มา :-
http://www.compassionateacupuncture.com/Thyroid%20Disorders.htm#RECOMMENDED%20FOODS%20%20FOR%20%20HYPERTHYROIDISM, http://www.mediboard.com/forums/index.php?showtopic=21065&hl=flaxseeds

ควรกินผักเหล่านี้ - บล็อคโคลี่, หัวผักกาด turnip, Brussel sprouts (บ้านเราเรียกอารายอ่ะ กะหล่ำจิ๋วเหรอ?), กะหล่ำปลี, กะหล่ำดอก, กะหล่ำ kale, mustard greens (ของไทยเรียกไรไม่รู้ดิ)

ส่วนผลไม้ที่ดีสำหรับโรค ก็มีลูกพีช, ลูกแพร์, เบอร์รี่ทั้งหลาย (สตรอเบอร์รี่, เชอรี่, บลูเบอร์รี่ ฯลฯ)

ปลาที่ควรกิน คือแซลม่อน, Halibut (สำหรับปลาแซลม่อน ถ้าเป็น Atlantic salmon จะดีสุดค่ะ และถ้ามีบอกให้รู้ว่าไม่ได้มาจากฟาร์มเลี้ยงก็จะดีมาก เพราะบางฟาร์มใส่สีให้เนื้อแดง ไม่ได้แดงธรรมชาติจากที่ว่ายทวนน้ำไปวางไข่ และสีอาหารสีแดงเป็นพิษกับตาโปน)

อาหารที่ชาว Hyper ควรเลี่ยงหรือไม่กินมาก ก็มีพวกนมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ไข่แดง ไอศครีม ชา กาแฟ น้ำตาลทรายขาว (อ่านเพิ่มหมวดนี้ได้ใน post เรื่องไอโอดีนค่ะ)

สำคัญที่สุดที่ต้องเลิก คือ แอสปาร์แตม, น้ำอัดลม (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีอาการตาโปนคู่ไปกับ Hyper ด้วย)

..ทั้งนี้ทั้งนั้น ป้าต้องชี้แจงไว้ว่า ข้อมูลเป็นเพียง guideline นะคะ บางคนกินนม กินไข่ กินโยเกิร์ตได้ ก็ไม่เป็นไร แต่บางคนกินแล้วเกิดอาการตาโปนมากขึ้นก็มี คงต้องลองกันดู ที่ควรทำคือจด food diary ไว้ และคอยสังเกตอาการตัวเองดูค่ะ

ที่ผ่านมาป้าก็ทดลองกินนั่นหยุดนี่เหมือนกัน แล้วก็จด diary ว่ากินอะไรไปบ้าง เอาไว้ดูประกอบกับรูปตาที่ถ่ายเก็บไว้เป็นช่วงๆ สักพักก็เริ่มจับได้เองว่า เรากินอะไรแล้วแสลงมาก แสลงน้อย หรือไม่แสลงอ่ะค่ะ

และก็จริงอย่างเค้าว่าใน mediboard นะ ..แต่ละคนตอบสนองต่างกัน แต่ที่พบว่าค่อนข้างเหมือนกัน ก็จะเป็นเรื่องแอสปาร์แตม, น้ำอัดลม และอาหารฟาสต์ฟู้ดทั้งหลายที่มีผลทำให้อาการตาโปนแย่ลงจริงๆ

เดี๋ยวจะแยกเรื่องอาหารและสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับชาวตาโปน Graves Disease โดยเฉพาะเป็นอีก post หนึ่งด้วยดีกว่า น่าจะอ่านเจอกันง่ายกว่ามารวมกันเป็นเรื่องยาวในโพสต์เดียวเน๊อะ

ตามไปอ่านกันนะคะ
ป้า (อดีต) ไฮเปอร์ ^_^

-: begin edit :- แจ้งการเปลี่ยนแปลง website ใน reference ค่ะ ปัจจุบันนี้ mediboard.com เค้าแปลงโฉมใหม่และเปลี่ยนเป็น livingwithgravesdisease.com แทนแล้ว ถ้าคลิกที่ link ด้านบน เค้าก็จะวิ่งไปที่ site ใหม่ให้โดยอัตโนมัตินะคะ ถ้าไม่ไปก็ไม่ต้องง้ออ่ะ กดไปเองเลยคุณหลาน ฮ่าๆ www.livingwithgravesdisease.com นะจ๊ะ ..ไปล่ะ ..มาบอกแค่นี้แหละ เผื่อเกิดมีการหา reference ไม่เจอ ป้ากลัวโดนหาว่ามั่วนิ่มอ่ะดิ -: end edit :-

Friday, March 12, 2010

6. ขนาดของยา Tapazole - dosage history

วันแรกที่เริ่มยา Tapazole (ตุลาฯ 2007) คุณหมอให้กินขนาด 5 มก. จำนวน 2 เม็ด หลังอาหารเช้า นอกจาก Tapazole ก็ต้องกินยา Inderal ขนาด 10 มก. 1 เม็ดหลังอาหารเช้า และ 1 เม็ดหลังอาหารเย็นด้วย

เดือนถัดมา (พฤศจิกาฯ 2007) เพิ่ม Tapazole จาก 2 เม็ด เป็น 3 เม็ด กินเวลาเดิม

เดือนธันวาฯ เริ่ม wean off ค่อยๆ ลดยา Inderal โดยคุณหมอให้หยุดกินในวันที่ 17 ไปจนถึงวันที่ 21 แล้วเริ่มกินใหม่ในวันที่ 22 วันเดียว หลังจากนั้นให้กินเฉพาะเวลารู้สึกมีอาการ (ใจสั่น/เต้นแรง นอนไม่หลับ หงุดหงิดจิตแกว่ง "ปิ๊ด" ง่ายด่าแหลก)

อยู่ดีสติสงบมาได้ถึงต้นเดือนกุมภาฯ 2008 ...ก็มีอันต้องกลับไปกิน Inderal อีกวันละ 1 เม็ดเพราะเริ่มรู้สึกใจเต้นแรง นั่งไม่ติดแถมนอนยากอีกแล้ว อะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็โมโหไปหมด ปิ๊ดขึ้นตลอด กินอยู่ 2-3 วันก็ค่อยรู้สึกสงบหน่อย ก็เลยหยุดกิน ..ครบกำหนดพบหมอปลายกุมภาฯ ผลเลือดดีมาก เข้าสู่ Euthyroid (คือไทรอยด์ไม่เป็นพิษแล้ว แต่ยังหยุดยาทันทีไม่ได้ต้องค่อยๆ ลดไปก่อน) โชคดีมากที่คุณหมอของป้าเก่งจึงไม่ได้ผลีผลามให้หยุดยา แต่เริ่มให้ลดยา Tapazole 5 mg. เหลือ 1 เม็ดช่วงนี้ ..

5. คุณยาย คุณแม่ ..และกรรมพันธุ์ตาโปน Grandma, mom, and my GD "inheritance" ..

ขอโทษทีจ้า หายไปซะนาน นอกจากศึกษาการปรับแต่งบล็อก เช่น วิธีสร้างแท๊บ Read More, เปลี่ยนสี headings, ฯลฯ แล้ว ก็วุ่นวายไปกับชีวิตตามประสาอ่ะนะ... รู้สึกผิดแฮะ ..ตั้งใจอยากทำบล็อกเผื่อแผ่ข้อมูลแล้วยังอุตริขี้เกียจอีกยัยป้าอ่ะ ..อ้ะ.. ได้ฤกษ์ซะที จาเล่าย้อนยาวท้าวอดีตให้อ่าน ใครเจอข้อมูลส่วนไหนที่เป็นประโยชน์กันได้ ป้าจะยินดีอย่างล้ำ วันนี้ขอโฟกัสเรื่องอดีตจริงๆ ย้อนไปถึงคุณยายเลย


ก็อย่างที่เกริ่นไว้ใน post #1 (ก่อนจะแว่บไปแว่บมาไม่ได้เขียนต่อเป็นเรื่องเป็นราวซะทีอ่ะค่ะ) ..หมุนกลับไปราวต้นๆ เดือนเมษาฯ ของปี 2007 ตื่นมาวันนึงหัวก็หมุนสวิงสุดเดชน่ากลัวมากถึงมากที่สุด เพราะเกิดมาไม่เคยเป็น แถมมันหมุนจนรู้สึกเหมือนกำลังดนเหวี่ยงลงเหวที่ไม่มีก้นหลุม เลยนอนผะงาบๆ สวดมนต์อยู่งั้นจนรู้สึกดีขึ้นแล้วแฟนเอายาหอมมาให้ ก็กลับมาติงต๊องได้เหมือนเดิม ...


ก็..จากวันนั้นไปจนวันที่หมอตรวจเจอว่าเป็นไทรอยด์เป็นพิษสะกิดตาโปนน่ะ ..มานึกย้อนไป ก็เริ่มระลึกชาติได้หน่อยๆ นะว่าตัวเองเคยสังเกตเห็นความผิดปกติของตาขวามาได้พักหนึ่งแล้วนะ แต่ก็คิดไปว่าเป็นปัญหาจาก contact lens ที่ใส่ แถมมีเปลี่ยนยี่ห้ออีกแน่ะ หาว่ามันระคายตา ทำน้ำตาไหลเลยบวมๆ ไปโน่น แม่บอกว่าจำได้ว่ามีการมาเปรยๆ ว่าแม่ดูดิ ตาไม่เท่ากัน ฮิๆ แล้วก็ยังบื้อต่อนะ ไม่ได้ใส่ใจ จนมันคงหมั่นใส้ทนไม่ไหวเลยโปนใส่ซะ


ก็นั่งโปนนอนโปนไปงั้น ทรมานน่าดู ไม่ได้ทรมานการเจ็บปวดใดๆ หรอกท่าน ..ทรมานใจกี๋ต่างหาก เพราะหมดสวย แต่งตาก็ไม่ช่วย ไปไหนไม่อยากไป กลายเป็นกบจำศีล ถ้าต้องไปไหนก็ใส่แว่นสีชา คนนึกว่าตาบอดอีก ห๊วย... ก็เลยใช้เวลาที่ไม่ไปไหนน่ะเข้า net ขุดคุ้ย google หาข้อมูลโรคเป็นบ้าเป็นหลัง ..ทำให้เห็นใจคนสมัยก่อนที่เป็นโรคนี้จัง เค้าคงแย่น่าดูเพราะไม่มีลู่ทางข้อมูลให้ศึกษาได้มากและสะดวกอย่างในปัจจุบันเน๊อะ ..เขียนถึงสมัยก่อน ก็นำมาถึงเรื่องคุณยายนี่ล่ะ ..


ก็..อยู่มาวันหนึ่ง (ตอนนั้นตาเริ่มดีขึ้น โปนน้อยลงแล้ว) ป้ากำลัง scan รูปทำ Book of Life อยู่ ก็ไปสะดุดตารูปที่คุณยายนั่งอยู่กะเราตอนสักสอง-สามขวบ แล้วใส่แว่นดำทรงกลมสุดเปรี้ยวเชียวนะ เลยหันไปแซวกะแม่ว่า "ดูดิแม่ คุณยายเปรี้ยวน่าดู สมัยนั้นยังใส่แว่นดำด้วยเหรอ" แม่หันมาบอกว่า "อ๋อ ตอนนั้นไงที่คุณยายตาเหลือก น่ากลั๊ว" เราก็ .. เห๊อ เหลือกแบบผีกระสือยายสายหรือเหลือกอารายหว่า.. แม่อธิบาย "คุณยายตาถลนๆ ออกมาน่ะ ก็เลยใส่แว่น ไม่มีใครรู้ว่าเป็นอะไร" อู๊ยยยยย.. อิฉันรู้เจ้าค่ะ ก็เป็น Hyperthyroid & Graves Disease แบบคุณหลานนี่ยังไงเล๊าาาาาาา .. ใช่แล้ว.. มันเป็น .. ก ร ร ม พั น ธุ์ ..
(อ่านต่อ คลิกที่ 'read more' เลยจ้า)