จากที่ได้มีหลานๆ
หลายท่านที่ได้กลืนรังสีไปแล้ว(ทั้งจากความจำเป็นเพื่อจัดการมะเร็ง หรือเพราะแพ้ยา
หรืออื่นใดก็ตาม)และได้เขียนมาคุยกับป้าทั้งใน blogและทาง mailกันนั้น
ทำให้ทราบว่าบ้านเราไม่มีการจัดแยกหรือให้คำเตือนกับผู้ได้รับรังสีหลังกลืน
แต่ปล่อยกลับบ้านไปเลยลาดีด้าอ่ะ (!!!!!!)...
ไม่สบายใจเลยค่ะ :-(
แต่ก็ไม่มีพลังอำนาจจะไปสั่งอะไรที่ไหนกะเค้าได้ ป้าเลยตัดสินใจทำเท่าที่ทำได้
โดยแปลเพิ่มหน้านี้ และแยกเป็นหัวข้อออกมาเดี่ยวๆ ให้ไว้ได้ searchเจอง่ายๆ
และดูกันสะดวกๆ และก็ได้เพิ่มรายละเอียดเป็นตารางให้อีก 1อันค่ะ
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ได้ทำตามกันอย่างเคร่งครัดถ้วนหน้าจังค่ะ ความสามารถในการกระจายแรงของรังสีนั้นสูงถึงขนาดทำให้เครื่องตรวจจับในสนามบินและอาคารรัฐร้องเตือนได้เลยนะ ในอเมริกาเลยมีกฏให้ผู้ป่วยที่เพิ่งกลืนรังสีมา ต้องถือใบรับรองจากแพทย์ถ้าต้องเดินทางหรือต้องเข้าอาคารรัฐด้วยซ้ำ ด้วยความเป็นห่วงว่าจะได้ไม่เป็นอันตรายกับผู้อื่นรอบตัวโดยเฉพาะเด็กและคนท้อง นอกจากนั้น ตัวผู้ป่วยเองจะได้ไม่ต้องเจอเครื่องร้องเตือน แล้วต้องเสียเวลาโดนตรวจเพราะอาจถูกเพ่งเล็งว่าพกอาวุธด้วยค่ะ
โอ้ว...เปล่งพลังเฮ้ากวงได้ขนาดนี้ แต่ทำไมบ้านเราให้กลับบ้านกันเฉยโดยไม่มีข้อปฎิบัติหลังกลืนบอกกล่าวกันเลยอ่ะ T_T(ที่มา - http://www.thyroid.org/radioactive-iodine)
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ได้ทำตามกันอย่างเคร่งครัดถ้วนหน้าจังค่ะ ความสามารถในการกระจายแรงของรังสีนั้นสูงถึงขนาดทำให้เครื่องตรวจจับในสนามบินและอาคารรัฐร้องเตือนได้เลยนะ ในอเมริกาเลยมีกฏให้ผู้ป่วยที่เพิ่งกลืนรังสีมา ต้องถือใบรับรองจากแพทย์ถ้าต้องเดินทางหรือต้องเข้าอาคารรัฐด้วยซ้ำ ด้วยความเป็นห่วงว่าจะได้ไม่เป็นอันตรายกับผู้อื่นรอบตัวโดยเฉพาะเด็กและคนท้อง นอกจากนั้น ตัวผู้ป่วยเองจะได้ไม่ต้องเจอเครื่องร้องเตือน แล้วต้องเสียเวลาโดนตรวจเพราะอาจถูกเพ่งเล็งว่าพกอาวุธด้วยค่ะ
โอ้ว...เปล่งพลังเฮ้ากวงได้ขนาดนี้ แต่ทำไมบ้านเราให้กลับบ้านกันเฉยโดยไม่มีข้อปฎิบัติหลังกลืนบอกกล่าวกันเลยอ่ะ T_T(ที่มา - http://www.thyroid.org/radioactive-iodine)
ข้อปฎิบัติ
|
จำนวนวัน
|
นอนแยกเตียงจากผู้อื่น ระยะห่าง 6 ฟุตโดยประมาณ
|
1-11*
|
ลางาน
|
1-5*
|
อยู่ห่างเด็กและสตรมีครรภ์
อย่างน้อย 6 ฟุต
|
1-5*
|
ไม่ออกไปในที่สาธารณชน /
เข้ากลุ่มฝูงชน
|
1-3*
|
งดการเดินทาง
ทั้งทางอากาศและขนส่งมวลชนหมู่มาก
|
1-3*
|
งดใช้พาหนะในการเดินทางนานๆ
ร่วมกับผู้อื่น
|
2-3
|
รักษาระยะห่างจากบุคคลอื่น
อย่างน้อย 6 ฟุต
|
2-3
|
ดื่มน้ำเยอะๆ
|
2-3
|
ห้ามปรุงหรือประกอบอาหารให้ผู้อื่น
|
2-3
|
ห้ามใช้ภาชนะร่วมกับผู้อื่น
|
2-3
|
ในห้องน้ำ ต้องชักโครกซ้ำ 2-3 ครั้งหลังเสร็จกิจ (สำหรับสุภาพบุรุษ
ให้นั่งปัสสาวะแทนการยืน)
|
2-3
|
นอนแยกเตียงจากเด็กและสตรีมีครรภ์
ระยะห่าง 6 ฟุตโดยประมาณ
|
6-23*
|
*ระยะเวลาที่กำหนด
ขึ้นอยู่กับขนาดมาก-น้อยของ I-131 ที่กลืน
|
และอย่าลืมนะคะว่า ผู้ป่วยที่กลืนรังสีควรได้รับการตรวจเลือดดูค่า FT4 ทุกเดือนไปจนกว่าระดับฮอร์โมนไทรอยด์จะเข้าสู่เกณฑ์ปกติ จากนั้นหมอจะให้ยาฮอร์โมน (Thyroid replacement hormones) และนัดตรวจค่า FT4 อีกครั้งในเดือนต่อไป
ผู้ที่กลืนรังสีไปแล้ว ต้องพบแพทย์เพื่อรับยาทดแทนฮอร์โมนต่อไปเป็นการถาวร อย่าขาดยานะคะ
*[การดู FT4 สำคัญมากหลังกลืนRAI I-131 เพราะTSH จะถูกกดลงต่ำอยู่นานราว18 เดือนแม้ว่าผู้ป่วยHyper จะมีอาการดีขึ้นแล้ว แถมค่า TSI antibodies ที่สูงขึ้นเพราะRAI ก็จะทำให้TSH ต่ำด้วย หมอจึงควรดู FT4 ประกอบไปด้วย]*
เพิ่มเติมจาก http://www.cancer.org/cancer/thyroidcancer/detailedguide/thyroid-cancer-treating-radioactive-iodineให้อีกนิดค่ะ
อาการข้างเคียง (ระยะสั้น) จากการกลืนแร่ - เจ็บคอ คอบวม คลื่นใส้อาเจียน การรับรสเปลี่ยนไป ต่อมน้ำลายบวม (การอมลูกอมช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดจากต่อมน้ำลายได้) บางคนอาจมีอาการตาแห้ง กรณีใช้ contact lens อยู่ ให้ปรึกษาแพทย์ว่าจะสามารถกลับมาใส่ได้อีกเมื่อใด
ผู้ชายอาจมีป้ญหาเรื่องการผลิตสเปิร์มได้น้อยลง หากกลืนในปริมาณที่สูงมาก และอาจเป็นหมันได้ (แต่ถึงขั้นนี้ยังมีไม่บ่อยนัก)
สำหรับผู้หญิง การกลืนแร่ส่งผลต่อรังไข่ และบางรายอาจมีประจำเดือนผิดปกติหลังกลืนไปนานได้ถึง 1 ปี หากต้องการมีลูก ควรรอ 6 เดือนถึง 1 ปีก่อนมีครรภ์
ล่าสุดมีการศึกษาเรื่องการมีโอกาสเป็นลูคีเมียจากการกลืน RAI ทั้งชายและหญิง แม้ขณะนี้ยังดูว่ามีโอกาสไม่สูงนักที่จะเกิด แต่ก็มีตัวเลขออกมาแล้วว่าโอกาสเกิดนั้นมีอยู่จริง
No comments:
Post a Comment