6. ขนาดของยา Tapazole - dosage history

วันแรกที่เริ่มยา Tapazole (ตุลาฯ 2007) คุณหมอให้กินขนาด 5 มก. จำนวน 2 เม็ด หลังอาหารเช้า นอกจาก Tapazole ก็ต้องกินยา Inderal ขนาด 10 มก. 1 เม็ดหลังอาหารเช้า และ 1 เม็ดหลังอาหารเย็นด้วย

เดือนถัดมา (พฤศจิกาฯ 2007) เพิ่ม Tapazole จาก 2 เม็ด เป็น 3 เม็ด กินเวลาเดิม

เดือนธันวาฯ เริ่ม wean off ค่อยๆ ลดยา Inderal โดยคุณหมอให้หยุดกินในวันที่ 17 ไปจนถึงวันที่ 21 แล้วเริ่มกินใหม่ในวันที่ 22 วันเดียว หลังจากนั้นให้กินเฉพาะเวลารู้สึกมีอาการ (ใจสั่น/เต้นแรง นอนไม่หลับ หงุดหงิดจิตแกว่ง "ปิ๊ด" ง่ายด่าแหลก)

อยู่ดีสติสงบมาได้ถึงต้นเดือนกุมภาฯ 2008 ...ก็มีอันต้องกลับไปกิน Inderal อีกวันละ 1 เม็ดเพราะเริ่มรู้สึกใจเต้นแรง นั่งไม่ติดแถมนอนยากอีกแล้ว อะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็โมโหไปหมด ปิ๊ดขึ้นตลอด กินอยู่ 2-3 วันก็ค่อยรู้สึกสงบหน่อย ก็เลยหยุดกิน ..ครบกำหนดพบหมอปลายกุมภาฯ ผลเลือดดีมาก เข้าสู่ Euthyroid (คือไทรอยด์ไม่เป็นพิษแล้ว แต่ยังหยุดยาทันทีไม่ได้ต้องค่อยๆ ลดไปก่อน) โชคดีมากที่คุณหมอของป้าเก่งจึงไม่ได้ผลีผลามให้หยุดยา แต่เริ่มให้ลดยา Tapazole 5 mg. เหลือ 1 เม็ดช่วงนี้ ..

ครบกำหนดพบหมออีกครั้งเดือนถัดมา (มีนาฯ 2008) คุณหมอให้ลด Tapazole ลงไปอีกเป็น 2.5 มก. ก็เลยต้องมานั่งตัดยา 1/2 เม็ด (..ทำให้นึกถึงโพสต์ที่เคยอ่านเจอใน mediboard สมัยเพิ่งเป็นโรคนี้ เรื่อง petition ขอให้บริษัทยาผลิตขนาด 2.5 mg. กัน ..ตอนนั้นไม่ค่อย "เก็ท" อ่ะเลยไม่สนใจ ตอนนี้กรรมสนอง เข้าใจถึงความลำบากยากเย็นของการตัดยาเยยยย) :-p

โดดมาปลายๆ เดือนมิถุนาฯ (2008) .. ถือวิสาสะ ทำการแอบ "เปลี่ยนเวลา" กิน Tapazole เอง จากหลังอาหารเช้าเป็นหลังตื่นนอน-ก่อนอาหารเช้าเลย อันเนื่องมาจากโพสต์ที่ได้ไปอ่านเจอ (เรื่องของเรื่อง..ไม่เคยหยุดหาข้อมูลเลย ว่างเมื่อไหร่ก็ google เรื่องโรคนี้) คุณน้อง นามซินเธีย เค้าเขียนว่าเคยเป็นมะเร็งไทรอยด์และได้รอดมาเขียน tip การกินยานี่แหละ คือยาไทรอยด์จะ work ดีมากเมื่อกินกับน้ำเปล่าเยอะหน่อย และขณะท้องว่างด้วย จากนั้นอย่าเพิ่งกินอะไรสักครึ่งถึง 1 ชม.ให้หลังนะจ๊ะ ..โอ้ว ไม่ลองไม่ได้แล้ว เป็นไงเป็นกัน ยัยป้ารีบปฏิบัติการ ณ บัดเดี๋ยวนั้นเลย ผลคือ..

..ก็รอดมาทำบล็อกไง แถมผลเลือดนับจากเดือนก.ค.ดีขึ้นแบบทะลุเป้าเลยครับทั่น แถมตาก็เริ่มหายโปนแบบคนทักชมเลย ..แต๊งกิ้วจ้ะซินเธีย :-) [แต่เรื่องตาเนี่ย..มันก็หุบๆโปนๆ เป็นระยะอีกนะ อันนี้หาอ่านได้ในหัวเรื่อง "ความเครียด" กับ "ของแสลงฯ" จ้ะ]

ข้ามเวลามาอีกปี ..ตุลาฯ 2009 ผลเลือดก็ดี ตาก็ดี คุณหมอให้เริ่มหยุดยา Tapazole ได้ทันทีวันรุ่งขึ้นเลย ...
[แต่ตัวเองแอบมีปัญหาเล็กๆ เพราะที่อ่านจากประสบการณ์/แนะนำของคนไข้ร่วมโรคจาก mediboard และ gravesdisease.com เป็นหลัก เค้าก็มีแต่บอกว่า "อย่า" หยุด Tapazole แบบเฉียบพลันนะ เพราะไทรอยด์จะตั้งรับไม่ทัน ทำให้กลับมาป่วยอีก.. ก็เลยขอไม่เชื่อหมอ และเขียนไปหารือ Elaine Moore กับ Linda (Eyesee) และทำการ wean off ด้วยตัวเอง โดยค่อยๆ ลดจากกินวันเว้นวันเป็นอาทิตย์ละครั้งจดยาหมดเมื่อ 13 ธ.ค. 2009]

.. ปัจจุบัน .. Goal is achieved! เข้าสู่ remission แล้วจ้า ..ค่าไทรอยด์ FT4 เป็นปกติ, TSH แกว่งต่ำมั่งขึ้นมั่ง ซึ่งคุณหมอบอกไทรอยด์กำลังปรับตัวอาจทำงานหนักบ้างเป็นบางเวลา ไม่เป็นไรตราบใดที่ FT4 ยังดี, ตาก็แทบจะหายโปนแล้ว ไม่จ้องก็ไม่เห็นความผิดปกติเลย (แต่ถ้าถ่ายรูป extreme close up ก็จะเห็นเบิกๆอยู่นิ๊ดดส์พอเป็นพิธี)
ขออวยพรให้ทุกคนเข้าสู่ remission ได้เช่นกันในเร็ววันเน๊อค่ะ ^_^