Thursday, July 29, 2010

11. พบหมอตามกำหนดอีกรอบ.. ไม่ดีเยยยย

เซ็งเป็ดชะมัด...

พบคุณหมอตามระยะกำหนดเมื่ออาทิตย์ก่อน (21 ก.ค.) ด้วยใจตุ๊มๆ ต่อมๆ เพราะหวั่นๆ ว่าผลเลือดตัว TSH ต้องตกอีกแน่ๆ เพราะหลังๆ นี้ป้านอนหลับยากสุดบากบั่นเหลือเกิ๊นพับแผะ...

...แล้วฝัน (เหี่ยว) ก็เป็นจริงจนได้

TSH เดือนที่แล้ว 0.08 ก็ต่ำกว่าเกณฑ์มนุษย์มนาอยู่แล้ว มาเดือนนี้แกเล่นร่อนลงเหวมาเป็น 0.036 แน่ะ แต่ก็ยังดีค่ะที่ตัว T3 & FT4 ยังดีอยู่ น้อง'เปอร์กะน้องโปนคงยังไม่กลับมาเยี่ยมเรา แต่คุณหมอบอกว่า ถ้ารอบหน้า TSH ยังดิ่งงี้ก็คงต้องกลับไปซบอก Tapazole ครึ่งเม็ดตามระเบียบ ..

.. เซ็งเป็ดอย่างแท้จริง ..

ไปดีกว่า..
-_-"

Tuesday, July 13, 2010

กล้วย..ช่วยไม่ได้ซะแร๊ววว Banana diet update

เรื่องมันเศร้า...

ป้าอุตส่าห์ขมีขมัน ปฏิบัติอย่างดี รวมแล้ว 10 วัน ก็ให้มีอันได้ไปพบข้อมูลเพิ่มเติมที่ทำให้ตัดสินใจเลิกล้ม asa banana diet นี้ในทันที

แล้วก็เลยรีบรุดมา post รายงาน update เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้อ่านของป้าตามนโยบาย blog นี้ต่อไป

อยากเตะตัวเองเหมือนกันที่ความอยากลดน้ำหนักทำให้รีบล้นลนลานจนไม่ดูตาม้าตาเรือให้ถี่ถ้วน แค่หาข้อมูลใน google แบบผ่านๆ แล้วก็โดดลงไปทำตามหนังสือเลย แต่พอไปๆ มันเหมือนมีอะไรมาติ่งๆ เคาะสมองให้หาเพิ่ม คงเป็นจิตใต้สำนึกของป้าอ่ะ ..เค้าเป็นอะไรเงี้ยแหละ ชอบมาเคาะๆ ดีดๆ..

..ก็เลยไป google เพิ่มค่ะ ได้มา 2 อันนี้ก็คิดหนักแล้ว (((แป่ว))) เพราะเป็นแหล่งที่น่าเชื่อถืออยู่...

1. Banana Diet "Recipe For Disaster" For Most
http://www.cbsnews.com/stories/2008/10/24/earlyshow/health/main4542997.shtml
2. The Top 10 Dumbest Fad Diets to Ever Be Unleashed on Dietershttp://www.wellsphere.com/healthy-living-article/top-10-dumbest-fad-diets-diet-reviews/610770

ลองไปอ่านกันดูเต๊อะ

ป้าอ่านแล้วก็เสีย self ชะมัด คือไม่ใช่แค่เชื่อในสิ่งที่อ่านไปหมดอ่ะนะ ชีวิตจริงคือทำมา 10 วันก็ไม่เห็นมีอารายเปลี่ยนแปลงเล๊ย บางคนเค้าบอกพุงลดน้ำหนักลด .. เรารึ?..nothing! อ้อ..มีแต่รู้สึกกระเพาะกิ่วๆ หลังกิน แล้วก็รู้สึกลมในท้องปั่นป่วน (ว่ากันตามภาษาดิบๆ ก็ ..ปุ่งปุ๋ง.. อ่ะแหละ ตดทั้งวัน ก๊ากๆ) อยู่ช่วง 2-3 วันแรกๆ น่ะค่ะ

แต่ก็อีกแหละ..ชีวิตมี 2 ด้านเสมอ มีว่าไม่ดี ก็มีว่าเยี่ยม ..อย่างในบทความที่นี่ http://www.naturalhealthreference.com/natural-weight-loss/banana-diet-tasty-bananas-for-weight-loss/
เค้าบอกว่าให้นิตยสารชื่อดัง Woman's World ให้ผู้อ่านอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งทดลองทำ banana diet เนี่ยเป็นเวลา 1 อาทิตย์ค่ะ อู๊ย แม่เจ้าประคุณพากันรายงานว่าเนื้อพุงหดหายไปคนละหลายๆ ปอนด์ ((..หนอย ชั้นทำมา 10 วัน นานกว่าพวกหล่อนอีก ขอโทษ ..ตุ่ยคงที่..ไม่เห็นมันจะหดไปไหนเลยย่ะ ได้ตังค์ค่าลงคอลัมน์แง๋มๆ เลยอีหรอบเนี้ย หึ))

ก็.. เอาเป็นว่า แล้วแต่วิจารณญาณกันละกันเน๊อะ

สำหรับป้า ป้าว่าจะกลับไปสูตรเดิมล่ะเจ้า คือ ออกกำลังยามเย็น (ตอนกินกล้วยก็ออกกำลังน๊า ไม่ใช่ไม่ทำ) แล้วก็กินอาหารเช้าพอดีอิ่ม แบบครบหมู่ กลางวันกินตามใจชอบ เย็นกินน้อยหน่อย งดแป้ง ส่วนขนมหวานก็อดๆ ใจบ้างแต่ไม่ให้ถึงกับตัวเองต้องเครียดขนาดไปฝันเห็นเค้กไรงั้น น้องต่อมฯ เค้ายิ่งใจเสาะอยู่ เดี๋ยวลดเลิดอะไรมากไป เครียดเคริ่ดขึ้นมาเธอจะพาเลือดดิ่งแล้วไปชวนน้องโปนกลับมาอีกล่ะเซ็งเป็ดเลย...

ก็..เล่าสู่กันอ่านเน๊อะ.. เผื่อเป็นประโยชน์ได้บ้างจ้า
^_^

Thursday, July 1, 2010

ที่มาที่ไป ไหงป้ามากินกล้วยหอม Going bananas?

ตั้งแต่ผลเลือดไทรอยด์เข้าที่เข้าทาง น้ำหนักของป้าก็เริ่มออกนอกลู่นอกทางแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้มาเรื่อย (อย่างที่ชาว mediboard กับคุณหมอของป้าเตือนไว้จริงๆ พับแผ่...ไม่น่าชะล่าใจเลยเรา)

จนวันนี้ก็จะทะลุ 65 กิโลฯ อยู่ร่อมร่อ .. หนักใจนะ จากคนเคยหนักแค่ 45 โลอ่ะทั่น

ไอ้ครั้นจะไดเอ็ทแบบจำกัดอาหาร ก็กลัวไปกระทบน้องต่อมฯ เค้าเข้า แล้วก็จะงอแงเป็นพ้งเป็นพิษกลับขึ้นมาอีก ก็ไอ้ที่เคยไดเอ็ทแล้วเลิกแล้วเริ่มแล้วเลิกแล้วเริ่ม (อีก) แล้วก็เลิก(อีก) จนเป็น Yo-Yo Effect จนสุดท้ายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ไปกระตุ้นอาการให้ไทรอยด์เป็นพิษจนได้มาแล้วน่ะ... เข็ดแล้วคร๊าบ

ความกลัว บวกความขี้เกียจ (ออกกำลัง) ก็เลยกลมกลิ้งเต่งตึงขึ้นเรื่อยๆ เช่นทุกวันนี้ แต่รู้สึกอึดอัดในความอวบชะมัด เสื้อผ้าจะปริเห็นแล้วหดหู่ แต่ก็ไม่อยากเครียดเรื่องการพยายามไดเอ็ทเพราะความเครียดก็อันตรายกับน้องต่อมฯ อีก

จนมาเมื่อไม่กี่วันมานี้ ได้เจอเรื่องการไดเอ็ทด้วยกล้วยหอมโดยบังเอิญจากนิตยสารที่อ่านตอนไปตัดผม ป้าก็เลยจดชื่อหนังสือแล้วตามไปหาซื้อจนได้มาอ่านสมใจ อ่านแล้วก็หาข้อมูลเพิ่มในเน็ท (ตามระเบียบ) เพื่อดูว่าโดนด่ามากน้อยแค่ไหน ข้อเสียเจออะไรกันมั่ง ฯลฯ สรุปว่าได้คำตอบในทางบวกมากกว่าลบ จบแล้วได้จังหวะ ก็เลยเลือกวันนี้ วันใหม่ของเดือนใหม่ วันที่ 1 ก.ค. เป็นวันดีเดย์ เริ่มปฎิบัติการซะเลย ... ::~เม้าท์ตัวเอง - ทำเป็นเลือกวันเหมือนเป็นเรื่องเก๋ไก๋ ..เปล่าหรอก ที่จริงมันโง่ตกเลข ขี้เกียจนับ กะว่าถ้าทำไม่สำเร็จจะได้ดูง่ายๆ ว่าทำมากี่วันก่อนล่มน่ะแหละ ~::

ในหนังสือเค้าก็แนะนำว่าให้ทำ diary ประสบการณ์การไดเอ็ทกล้วยหอม หรือเขียนใน blog ก็ได้ เป็นเทคนิคหนึ่งในการเสริมสร้างกำลังใจ และไม่ให้รู้สึกโดดเดี่ยว มีแรงเชียร์ไรเงี้ย ป้าว่าก็ดีนะ แถมได้เป็นประโยชน์ทางข้อมูลช่วยคนอื่นได้ด้วย จุดประสงค์เหมือนที่ป้าทำ blog ไทรอยด์นี่พอดี ป้าก็เลยได้ทีเอามาเขียนแถมให้ใน blog นี้เสียเลยค่ะ

บอกชื่อหนังสือให้ก่อนดีกว่า เผื่อใครสนใจไปหามาอ่านบ้าง "ผอมสวย กล้วยช่วยคุณได้" โดย ฮามาจิ แปลโดยคุณฐานิสรา เกียรติบารมี จากสนพ. Nation Books ค่ะ

ไปล่ะ ... แล้วจะทยอยเอา diary มาลงเป็นระยะๆ ว่าเป็นไงบ้างค่ะ
^_^